1.ท่าขี้เหล็ก
ท่าขี้เหล็ก เป็นเขตของพม่า ติดต่อแม่สาย ซึ่งกั้นกลางด้วยแม่น้ำสายแบ่งพรมแดนของไทยกับพม่า
เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวที่มาอำเภอแม่สายได้จับจ่ายซื้อของกันเป็นอย่างมาก
ผู้ที่ไปเที่ยวจังหวัดเชียงราย นิยมข้ามไปซื้อของฝาก สินค้าพื้นเมืองของพม่าหรือ
ชาวเขาที่อยู่แถวชายแดน รวมทั้งของฝากจากทางเหนือไปฝากญาติมิตร
ในการข้ามไปท่าขี้เหล็ก ไม่มีพิธีการอะไรมากนัก นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าเขตประเทศพม่า
ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 –
18.00 น. วันศุกร์
เสาร์ และวันนักขัตฤกษ์ ขยายเวลาถึง 21.00 น. โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมคนละ 5 บาท สำหรับชาวต่างประเทศ 5 เหรียญสหรัฐ
ใช้พาสปอร์ตไปติดต่อที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเที่ยวได้ถึงจังหวัดเชียงตุง
2.วัดถ้ำเสาหินพญานาค
วัดถ้ำเสาหิน
ตั้งตามชื่อของถ้ำที่อยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งในถ้ำนั้นมีลักษณะเป็นหินย้อยลงมาจรดเบื้องล่าง
มีสันฐานคล้ายเสาบ้านมีหลายๆต้น ในถ้ำนั้นลึกเข้าไปประมาณ 40-70
เมตร(เคยเป็นที่เก็บวัตถุโบราณ)ที่สุดของถ้ำเป็นที่โล่งกว้าง ณ ที่ตรงนี้จะเรียก
ว่า ลาน(ข่วง)พญานาค อันเป็นที่มาของคำว่า”ถ้ำเสาหินพญานาค”ดังกล่าว ปัจจุบันนี้เนื้อที่ของวัดมีอยู่
80 ไร่ 3 งาน 60 ตารางวา ปัจจุบันมีพระครูประภัสร์จิตสังวร เป็นเจ้าอาวาส
ถ้าใครชอบแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอแม่สาย แบบสายๆ ก็สามารถแวะมาเที่ยวได้
3.หนองน้ำพุ
หนองน้ำพุ
จะเป็นแหล่งน้ำอยู่ในพื้นที่ของอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในอำเภอแม่สาย
ตั้งอยู่ในพื้นที่ “บ้านจ้อง” อยู่ใกล้กับถ้ำหลวง ถือได้ว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์
เพราะว่าเมื่อเวลาส่งเสียงหรือปรบมือดังๆ ใกล้กับหนองน้ำ
จะทำให้น้ำกลางหนองจะมีฟองน้ำพุ่งขึ้นมาบนผิวน้ำ
ยิ่งเสียงดังมากเท่าไหร่ฟองน้ำจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีบรรยากาศทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของแม่สายอีกด้วย
4.น้ำบ่อหลวง

หรือว่า
น้ำบ่อหยั๊ก เป็นภาษาเหนือ แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2448
เป็นน้ำบ่ที่มีขนาดกว้างมาก กว้างกว่าน้ำบ่อทั่วไป มีน้ำใส่สะอาดทั้งปี
และมีมีปริมาณมากตลอดเวลา
ซึ่งนับเป็นความภูมิใจของภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นชาวเหนือ
ที่สามารถขุดเจาะหาแล่งน้ำที่ดีได้ ทั้งที่บริเวณแห่งนี้เป็นสถานที่ลาดเอียง
มีความสู่กว่าระดับน้ำเหมืองมาก
(ด้วยขนาดของบ่อน้ำที่มีขนาดกว้างใหญ่และมีน้ำบ่อทีสร้างขึ้นมาเพื่อประโยชน์ส่วนกลาง
จึงเรียกชื่อตามว่า “น้ำบ่หลวง) ชาวแม่สายและบริเวณใกล้เคียง
ได้ใช้น้ำบ่นี้อุปโภคบริโภคเป็นเวลาหลายสิบปี ต่อมาตึกราบ้านช่องเกิดขึ้นมากมาย
ตามความเจริญของบ้านเมือง ระบบน้ำประปาเกิดขึ้นตามมาด้วย
ซึ่งให้ความสะดวกกว่าการตักน้ำจากบ่อมาก ความสำคัญของน้ำบ่อหลวงต้องถูกทอดทิ้ง
เสื่อมโทรมจนเกือบจะลืมไปว่า น้ำบ่หลวงยังมีอยู่
ทำให้เป็นจุดพักของนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวแถวแม่สายได้ดีเลยทีเดียว
วิธีเดินทาง
น้ำบ่อหลวง แม่สาย น้ำบ่อหลวงตั้งอยู่เทศบาล ซอย 8 (อยู่ตรงข้ามตลาดบุญยืน) เข้าไปประมาณ 100 เมตร
จะเห็นอยู่ทางซ้ายมือ
5.ตลาดน้อยไม้ลุงขน
หมู่บ้านไม้ลุงขนนั้นเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งเลยของอำเภอแม่สาย
ซึ่งที่มาของชื่อไม้ลุงขน มาจากชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง เรียกกันว่า “ต้นไม้ลุง”
บริเวณกิ่งต้นสนจะมีเถาวัลย์ และกิ่งเล็ก ๆ งอกออกมาลักษณะเหมือนขน
ชาวบ้านจึงเรียกว่าไม้ลุงขน และนำมาเป็นชื่อหมู่บ้านดังกล่าว บริเวณใจกลางหมู่บ้านไม้ลุงขนจะมีตลาดอยู่
ซึ่งคนในพื้นที่จะเรียกเป็นภาษาถิ่นว่า “กาดน้อย” กาดน้อยเป็นตลาดเย็น
หมายถึงจะขายของตอนเย็น ตอนเช้าก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าเอาของมาขายเช่นกัน
แต่จะเป็นพวกน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ หรือไม่ก็กับข้าวสำเร็จ
ส่วนในตอนเย็นเริ่มตั้งแต่เที่ยงวันเป็นต้นไป จะเป็นของสด เช่นผักสดชนิดต่าง
ให้ชาวไทย และนักท่องเที่ยวที่มาแม่สายจับจ่ายใช้สอยกันได้
6.วนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
อีกที่หนึ่งของแม่สายที่น่าสนใจก็คือ
วนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง หรือ ขุนน้ำนางนอนที่ได้ยินกันในชื่อนี้บ่อยๆ
ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2529พื้นที่จะครอบคลุมหัวดอยนางนอนทั้งหมด อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
ป่าดอยนางนอน ท้องที่รับผิดชอบของตำบลโป่งผา อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย
มีเนื้อที่ 8 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 5,000 ไร่ มีพื้นที่สำหรับบริการนักท่อง
เที่ยวอยู่ 2 แห่งคือ
1.บริเวณวนอุทยานถ้ำหลวง
มีเนื้อที่ 12 ไร่ ตั้งอยู่ท้องที่บ้านน้ำจำ ต.โป่งผา
อ.แม่สาย
จ.เชียงราย เป็นที่ตั้งสำนักงาน
2.บริเวณขุนน้ำนางนอน
มีเนื้อที่ 8 ไร่ ตั้งอยู่ท้องที่บ้านจ้อง ต.โป่งผา อ.แม่สายจ.เชียงราย
การเดินทาง
เดินทางได้โดยใช้ทาง
หลวงหมายเลข 10 จากเชียงราย – แม่สาย ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร
จากนั้นเลี้ยวซ้ายตามป้ายชื่อ (ปากทางเข้าอยู่บริเวณตรงข้ามโรงเรียนบ้านน้ำจำ
ต.โป่งผา) วนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร
7.ถ้ำปลา

ถ้ำปลาในตำนานได้กล่าวว่าเป็นสถานที่
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาประทับพระอิริยาบถ
และได้ทรงอธิษฐานปล่อยปลาลงไว้ภายในถ้ำนี้ตามตำนานซึ่งได้กล่าวว่า ประมาณพรรษาที่ 19 หรือ 20 หลังจากตรัสรู้
พระพุทธเจ้าได้เสร็จมาโปรดสัตว์และได้เสด็จออกบิณฑบาตร ณ
เมืองโยนกนาคนครไชยบุรีศรีช้างแสน โดยทรงโปรดพระเจ้าสิงหรวัติราชา ผู้ครองนคร
และปู่เจ้าลาวจก ทรงบิณฑบาตรในมืองแล้วเสด็จไปฉันบิณฑบารตรที่ถ้ำปุ่ม
จากนั้นได้ทรางดำเนินเลียบตีนเขาไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มายังถ้ำเปลวป่องฟ้า
ได้ทรงนำเอาปลาห่อหมก (ปลาห่อหนึ้ง) ปลาไม้หีบปิ้ง
ที่ทรงได้รับจากบิณฑบาตรมาอะษฐานให้เขามีชีวิต ให้พระอานนท์เทน้ำจากบาตรพร้อมทั้งปล่อยปลาเหล่านั้นลงไปในรูเหวบนถ้ำเปลวป่องฟ้า
น้ำนั้นไหลออกหน้าผาไปทางทิศตะวันออก ด้วยเหตุนี้ถ้ำนั้นจึงถูกเรียกว่าถ้ำปลา
พระพุทธเจ้าได้ทรงอธิษฐานเอาก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งปิดรูเหวที่ทรงเทน้ำลงไปนั้นเสีย
เอาพระหัตถ์ลูบคลำพระเกษามาเส้นหนึ่ง ทรงอธิษฐานบรรจุไว้ในก้อนหินใหญ่นั้น
เพื่อให้เป็นที่สักการะบูชาแก่คนและเทพยดาสืบไป ดังนั้น
ถ้ำปลาจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่ของ อ.แม่สาย
สถานที่ตั้ง
วัดถ้ำปลาตั้งอยู่บริเวณบ้านถ้ำ ต.โป่งผา อ.แม่สาย ห่างจาก
อ.แม่สายมาทางทิศใต้ประมาณ 13 กิโลเมตร
ถ้ามาจากเชียงรายจะอยู่ซ้ายมือ (บริเวณจุดตรวจบ้านถ้ำ)
มีป้ายขนาดใหญ่บอกเอาไว้อย่างชัดเจน ระยะทางจากปากทางเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร ระหว่างทางจะมีหมู่บ้านชาว
จีนฮ่อ ให้เห็นอยู่ 2 ข้างทาง
ซึ่งจีนฮ่อที่อาศัยอยู่บริเวณนี้เป็นจีนฮ่อที่พลัดถิ่นมากจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
8.ตลาดดอยเวา

ตลาดดอยเวาเป็นแหล่งซื้อ-ขายของฝากทำให้นักท่องบเที่ยวแทบทุกคนต้องได้มาสักครั้งหนึ่ง
เพราะว่าราคาประหยัดถูก บริเวณนี้แต่เดิมเป็นที่ว่างเปล่า
ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดดอยเวา หรือปากทางขึ้นไปพระธาตุดอยเวานั่นเอง
ซึ่งเป็นที่ดินบริเวรวัดดอยเวา หลังจากนั้นทางวัดได้ก่อสร้างเป็นอาคารชั้นเดียว
เพื่อจัดสรรให้บรรดาพ่อค้าแม่ขายได้จับจองล๊อกเพื่อขายของฝาก
โดยเงินที่ได้จากค่าเช่านั้น ทางวัดได้นำมาบูระณะปฏิสังขรบริเวณรอบ ๆ
วัดและพระธาตุดอยเวาให้ดูดี และเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้น
บรรดาของฝากที่มีขายกันมากมาย ประกอบไปด้วย
เครื่องใช้ไฟฟ้า, ขนมชนิดต่าง, เครื่องคิดเลข, เสี้อผ้ากันหนาว, เสี้อผ้าแฟชั่น, ชุดว่ายน้ำ, ถุงเท้า, รองเท้า, ของเล่นเด็ก,
ภาพโปสเตอร์, พรม, ผ้าห่มขนปุย, ฯลฯ โดยสินค้าส่วนใหญ่จะผลิตในประเทศจีน
มีบางอย่างที่ผลิตในประเทศพม่าเช่น เครื่องสำอางค์ หรือขนมบางอย่าง
สนนราคาก็ไม่แพงเลย อาทิเช่น เครื่องเล่นวีซีดีเครื่องละประมาณ 1,000-1,200 หรือถ้าคุณต่อรองดี แล้ว
อาจจะต่ำกว่าพันก็ได้ เครื่องคิดเลขขนาดใหญ่ก็ราคาประมาณ 100 บาท อันเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ประมาณ 30-60 บาท ของเล่นเด็กที่ผลิตในจีนก็ราคาถูก
แต่คุณภาพ หรือความคงทนก็ด้อยตามราคาของมัน
ตลาดสายลมจอย
ส่วนแหล่งขายของฝากอีกที่หนึ่งคือบริเวณถนนสายลมจอย (สายลมโชย)
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทะลุมาจากตลาดดอยเวาได้เลย
สินค้าที่มีจำหน่ายที่นี่ก็มีคล้าย ๆ กับของตลาดดอยเวา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ถนนสายลายจอยแห่งนี้จะถูกเนรมิตให้เป็น
ถนนข้าวสาร(แม่สาย) มีการปิดถนนคนเดิน
ให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านได้เล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างเต็มที่ ซึ่งได้เริ่มเมื่อปี
2547 นี้เป็นปีแรก
9.พระธาตุดอยตุง
พระธาตุดอยตุงนอกจากมีความสำคัญในทางพุทธศาสนาแล้ว
บนยอดดอยตุง เป็นยอดเขาที่สูง อีกทั้งเป็นที่อยู่อาศัยของพวกชาวเขาเผ่าต่าง ๆ เช่น
อีก้อหรืออาข่า มูเซอดำ มูเซอแดง เย้า และเผ่าลีซอ เป็นต้น และในปัจจุบัน
หลังจากที่ได้รับการพัฒนาความให้ได้รับความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง
และยังจัดที่ทำกินให้กับพวกชาวเขาเหล่านั้นให้ได้มีที่ทำกินอย่างเป็นหลักแหล่งไม่อพยพเร่ร่อนไปตัดไม้ทำลายป่าเพื่อปลูกพืชไร่อีกต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี
ทรงมีความสนพระทัยที่จะพัฒนาดอยตุงให้เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์
มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสมพร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรในบริเวณนั้นให้ดีขึ้นคณะกรรมการที่รับผิดชอบ
จึงเห็นควรจัดพื้นที่ในโครงการดอยตุงให้เป็นพื้นที่ทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมชนนีไปด้วยจึงได้จัดสร้างตำหนักที่ประทับขึ้นบนดอยตุงดังที่ปรากฎในปัจจุบัน
ทางไป
พระธาตุดอยตุง
พระธาตุดอยตุง อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่สายประมาณ 48 กิโลเมตร แยกซ้ายจากทางหลวงหมายเลข ๑๑๐ ตรงกิโลเมตร ที่ ๘๗๑-๘๗๒
เข้าทางหลวงหมายเลข ๑๑๔๙ ประมาณ ๑๗ กิโลเมตร เป็นทางราดยางตลอดและขึ้นเขาสูง
ขึ้นเรื่อยๆ พระธาตุดอยตุงเป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า
นับเป็นครั้งแรกที่พระ พุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ได้มาประดิษฐานที่ลานนาไทย
ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของแม่สายที่โ่ด่งดังอันดับต้นๆอีกด้วย
10.วัดถ้ำผาจ๋ม
คือวัดที่มีขอบเขตติดต่อกับชายแดนพม่า
และมีแม่น้ำแม่สาย เป็นเส้นแบ่งเขตชายแดนทั้งสองประเทศ
ทำให้นักท่องเที่ยวไปที่แม่สาย ส่วนมากมาถึงแม่สาย ก็จะสามารถไปเที่ยวกันได้
ก็จะเลยข้ามฝั่งไปประเทศพม่า
ที่เรียกกันว่าฝั่งท่าขี้เหล็ก ไปเที่ยวซื้อของพื้นเมืองของที่ระลึกต่าง ๆ
อันได้แก่ หินหยก หยกของประเทศพม่า เป็นหยกที่ดีที่สุดเพราะมีความเป็นมันวาว
อยู่ในตัวของมันพวกเครื่องประดับต่าง ๆ เช่น พลอยทับทิม ตัวแหวน สร้อยข้อมือ
ซึ่งค่าแรงงานทางฝั่งพม่า ไทยใหญ่ถูกกว่าทางกรุงเทพฯ และยังมีสินค้าของประเทศจีน
ที่ผ่านเข้ามาจากคุนหมิง
มาทางเชียงตุงแล้วเข้ามาวางขายที่ตลาดท่าขี้เหล็กนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อมาแล้ว
ก็จะถ่ายรูปตรงป้ายที่เขียนว่า “เหนือสุดยอดสยาม” เพราะบริเวณเขต ต.เวียงพางคำ
อ.แม่สาย นั้นเป็นพื้นที่ส่วนที่สูงที่สุดของประเทศไทย ฉะนั้นวัดถ้ำผาจม
จึงเป็นวัด และเป็นสายที่ท่องเที่ยวของแม่สาย ที่ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศไทย